ประวัติความเป็นมาของRed Bee Shrimp
กุ้งเรดบี ถือกำเนิดครั้งแรกเมื่อประมาณ 10 ที่แล้วในประเทศญี่ปุ่น โดย Mr.Hisayasu Suzuki. บุคคลคนนี้ได้นำกุ้งบีธรรมดา (Bee Shrimp "Caridina serrata") มาผสมพันธุ์กันโดยใช้หลักการผสมพันธุ์แบบสายเลือดชิด (Inbreed) เราสามาถรถพบ Bee Shrimp ได้ตามลำธารทางตอนใต้ของประเทศจีน Bee Shrimp และกุ้งแคระในตระกูล "Caridina" เมื่อโตเต็มที่จะยาวเพียง 3-4 เซนติเมตรเท่านั้น ลักษณะโดยทั่วไปของ Bee Shrimp ลำตัวจะสั้นป้อม มีตั้งแต่สีน้ำตาลเข้ม สีดำไปจนถึงสีดำเหลือบน้ำเงิน มีปล้องสีขาวจางๆ สลับใส ตรงปลายส่วนหัวบริเวณกรีกลางลำตัว และอาจมีบ้างบริเวณปลายหาง
Mr.Suzuki ได้ทดลอง Inbreed กุ้ง bee Shrimp หลายพันตัว เป็นเวลานานกว่า 6 ปี เสียเงินลงทุนไปกว่า 8,000,000 เยน (หรือกว่า 3,000,000 บาท) จนได้กุ้ง Bee ที่มีลักษณะลำตัวเป็นสีแดงสลับกับปล้องใส จึงเป็นที่มาของชื่อ Crystal Red Shrimp (CRS) จากนั้นต่อมาจึงมีการน้ำเจ้า CRS มาพัฒนาสายพันธุ์ต่อให้มีสีขาวที่ชัดเจนขึ้น และมีแถบสีขาวที่กว้างขึ้นเรื่อยๆ เราเรียกกุ้งที่พัฒนาจาก CRS ว่า RedBee ราคาของเจ้าเรดบีขึ้นอยู่กับการแยกเกรด เราสามารถแบ่งเกรดของกุ้งได้จากความแดงของปล้องสีแดง ความหนาแน่นของเม็ดสีขาว และแถบสีขาวที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่เกรดต่ำที่สุด คือ เกรด D (เกรดนี้คือเจ้า CRS ที่กล่าวในข้างต้นนั่นเอง) ต่อมาก็เป็นเกรด C, B, A และ S นับจากเกรด S นี้ สีแดงของกุ้งจะชัดเจน แถบสีขาวมีมากขึ้นและจะเริ่มพัฒนาต่อไปอย่างเห็นได้ชัดจากเกรดนี้ ต่อจากนั้นยังสามารถแยกกุ้งเกรด S ออกเป็น Level ต่างๆ ได้อีก 5 Level โดยเริ่มนับจาก Level 1 ไปจนถึง Level 5 (ในประเทศญี่ปุ่นจะแบ่งเกรดเป็น Normal Grade, S Grade และสูงสุด SS Grade ตัวไหนมีจุดเด่นยังไงราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามนั้น และเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ผมจึงขอใช้อีกวิธีที่กล่าวไปแบ่งเกรดกุ้งให้ละเอียดและเห็นภาพได้ชัดขึ้นนะคะ) และในอนาคตอันใกล้ยังจะมีการพัฒนา Level ขึ้นไปเรื่อยๆ ราคาของ เรดบี เริ่มตั้งแต่ 100 กว่าบาทไปจนถึงหลักแสน เช่น Level 5 ที่ราคาสูงสุดในขณะนี้คือ 300,000 เยน (กว่า 100,000 บาท) หลายคนที่อ่านมาถึงตอนนี้คงสงสัยว่า 300,000 เยนนี้ สามารถซื้อกุ้ง Level 5 ได้กี่ตัว คำตอบคือ "ตัวเดียว" ค่ะ....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น